เชื่อหรือไม่ ประสิทธิภาพของอาหารเสริมเริ่มต้นที่ “วัตถุดิบ”
อย่างที่บอกในเบื้องต้น หากวัตถุดิบอาหารเสริมไม่มีคุณภาพ ย่อมส่งผลโดยตรงกับประสิทธิภาพในการใช้งาน ซึ่งจะสังเกตได้จากผลลัพธ์หลังจากรับประทาน อาจจะไม่เกิดผลใดใด หรือไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควรจนผู้รับประทานไม่รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นหลังรับประทานผลิตภัณฑ์อาหารเสริม แม้จะรับประทานอย่างต่อเนื่องตามที่ระบุเอาไว้ในขั้นตอนก็ตาม ผลลัพธ์หลังการใช้งานนั้นเกี่ยวข้องโดยตรงกับมาตรฐานของวัตถุดิบอาหารเสริม ซึ่งแม้ว่าสารสกัดอาหารเสริมที่ได้นั้นจะมาจากแหล่งวัตถุดิบที่ดี แต่ถ้าหากสกัดด้วยกรรมวิธีที่ไม่ถูกต้อง หรือใส่ในปริมาณที่น้อยเกินไป ก็ย่อมไม่ได้ประสิทธิภาพที่ต้องการ นอกจากนี้วัตถุดิบอาหารเสริมที่ไม่ได้มาตรฐาน ทำให้สูตรที่คิดค้นมานั้นผิดเพี้ยนไปได้ ดังนั้นหากวัตถุดิบอาหารเสริมไม่ได้มาตรฐานแล้วต่อให้จะคิดค้นสูตรอาหารเสริม หรือสร้างนวัตกรรมอาหารเสริม (Innovative Nutraceutical) ให้อลังการเท่าไหร่ ก็อาจจะได้ผลลัพธ์ที่ไม่มีประสิทธิภาพ
เทคโนโลยี ถือเป็นทรัพย์สมบัติทางปัญญาเฉพาะทางของแต่ละโรงงาน ซึ่งไม่สามารถแทนที่ได้ สารออกฤทธิ์บางอย่าง ที่มีประโยชน์ อยู่ในผักผลไม้ บางอย่างไม่ว่าเราจะพยายามสกัดแค่ไหนก็ไม่อาจได้มาซึ่งสารสำคัญที่เราต้องการได้ เช่น เบต้า กลูแคน โดยปกติแล้วเราต้องการเบต้ากลูแคนที่มีโมเลกุลที่ใหญ่ เพื่อให้สามารถทำงานสร้างภูมิคุ้มกันได้ แต่เมื่อโมเลกุลใหญ่กลับมีปัญหาในการนำพาเข้าเลือดของมนุษย์ ดังนั้นจึงยังขัดกันอยู่ จำเป็นที่เราจะต้องพึ่งพาเทคโนโลยีพิเศษ ให้สามารถเอาชนะอุปสรรคการนำเข้าเส้นเลือด และนำไปใช้ได้ แต่ด้วยเทคโนโลยีที่มีสิทธิบัตรของบริษัท Glycanova / Norway ผู้ผลิตIMMUNA (สารสกัดจากเห็ดชิตาเกะ) ที่สามารถปกป้องโครงสร้างTriple helix form ให้ได้มาซึ่งเบต้า กลูแคน ที่มีโมเลกุลใหญ่ แต่ยังสามารถเข้าสู่กระแสเลือดได้ จึงทำให้ได้ผล แม้จะใช้dosageเพียงแค่ 1mg/วันเท่านั้น (Immune liquid form) หรือ Viqua นั้น โดยปกติสารpolyphenolsซึ่งเราทราบดีว่าเป็นanti oxidantที่มีประโยชน์แต่ ปกติสารตัวนี้จะสามารถเสื่อมสลายได้ง่ายมาก เมื่อพบกับกรดในกระเพาะ แต่ด้วยเทคโนโลยีของAxialys ประเทศฝรั่งเศส ที่ใช้สิทธิบัตรในการผลิตชื่อADs technology คือการเคลือบสาระสำคัญของทับทิม และปกป้องสาระสำคัญให้ยังคงอยู่แม้จะผ่านกรดในกระเพาะอาหารไปแล้ว และยิ่งไปกว่านั้นยังนำเข้าสู่เซลล์จนลึกถึงระดับไมโตรคอนเดรีย เพื่อทำงานสู้กับอนุมูลอิสระลงถึงชั้นในสุด จึงทำให้ผิวกระจ่างใส และชะลอวัยได้ในระดับเซลล์
วัตถุดิบแต่ละตัวนั้น เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ ผู้บริโภคจำเป็นที่จะต้องคำนึงถึงปริมาณที่เห็นผล ด้วย มีผลิตภัณฑ์อาหารเสริมหลายตัวในท้องตลาด ที่ใส่หลายๆตัวเพื่อให้สามารถเคลม หรือมีจุดขายให้พูดได้เยอะ เหมือนเป็นสินค้ามหัศจรรย์ที่ประกอบไปด้วยวัตถุดิบนวัตกรรมมากมายบนฉลาก แต่จริงๆแล้วเนื่องจากต้นทุนที่สูงเกิน และข้อจำกัดของพื้นที่ในเม็ด ทำให้ไม่สามารถใส่สารในปริมาณที่เห็นผลได้ ทำให้ถึงรับประทานไปก็ไม่ได้ผลอย่างที่คาดหวัง ทั้งนี้ในฐานะผู้พัฒนาสูตร ทาง 3C ให้ความสำคัญกับเรื่องการใส่ปริมาณของวัตถุดิบให้ได้มากตามงานวิจัย หรือข้อมูลที่รองรับ และตามปริมาณที่อย.กำหนดด้วย ดังนั้นจะเห็นได้ว่าการมีสารมากมายหลายชนิดต่อ 1 สินค้า จึงไม่ใช่สิ่งที่พึงกระทำเสมอ ในปัจจุบันในต่างประเทศเริ่มให้ความสำคัญกับคำว่า “clean label” คือมีส่วนผสมให้น้อยที่สุด เพื่อให้ผู้บริโภครู้ว่าทานอะไรเข้าไปบ้าง โดยมีสารที่ไม่ก่อประโยชน์กับร่างกายให้น้อยที่สุด เช่นพวก excipient/ carriers / binders และสาระสำคัญออกฤทธิ์ให้ได้ตาม Dosage ที่ได้ผลมากที่สุด เช่นสินค้า ElderShield ของ 3C ซึ่งประกอบไปด้วยส่วนที่เป็นผล Elderberry ถึง 65% และ probiotic fiber (SunFiber) ถึง 45% เรียกได้ว่าแทบจะไม่มี excipient อย่างอื่นผสมอยู่เลย ทำให้สินค้าดังกล่าวเป็นที่ต้องการมากในตลาดสหรัฐอเมริกา
อย่างที่บอกในเบื้องต้น หากวัตถุดิบอาหารเสริมไม่มีคุณภาพ ย่อมส่งผลโดยตรงกับประสิทธิภาพในการใช้งาน ซึ่งจะสังเกตได้จากผลลัพธ์หลังจากรับประทาน อาจจะไม่เกิดผลใดใด หรือไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควรจนผู้รับประทานไม่รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นหลังรับประทานผลิตภัณฑ์อาหารเสริม แม้จะรับประทานอย่างต่อเนื่องตามที่ระบุเอาไว้ในขั้นตอนก็ตาม ผลลัพธ์หลังการใช้งานนั้นเกี่ยวข้องโดยตรงกับมาตรฐานของวัตถุดิบอาหารเสริม ซึ่งแม้ว่าสารสกัดอาหารเสริมที่ได้นั้นจะมาจากแหล่งวัตถุดิบที่ดี แต่ถ้าหากสกัดด้วยกรรมวิธีที่ไม่ถูกต้อง หรือใส่ในปริมาณที่น้อยเกินไป ก็ย่อมไม่ได้ประสิทธิภาพที่ต้องการ นอกจากนี้วัตถุดิบอาหารเสริมที่ไม่ได้มาตรฐาน ทำให้สูตรที่คิดค้นมานั้นผิดเพี้ยนไปได้ ดังนั้นหากวัตถุดิบอาหารเสริมไม่ได้มาตรฐานแล้วต่อให้จะคิดค้นสูตรอาหารเสริม หรือสร้างนวัตกรรมอาหารเสริม (Innovative Nutraceutical) ให้อลังการเท่าไหร่ ก็อาจจะได้ผลลัพธ์ที่ไม่มีประสิทธิภาพ
จะเห็นได้ว่าคุณภาพของวัตถุดิบอาหารเสริมนั้นส่งผลเป็นอย่างมากกับผลลัพธ์ของผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ซึ่งจะส่งผลไปยังด้านอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับการผลิตอาหารเสริมด้วย ดังนั้นขั้นตอนการเลือกใช้วัตถุดิบอาหารเสริมที่มีคุณภาพ ที่เป็นไปตามมาตรฐานของสารสกัดอาหารเสริมและวัตถุดิบอาหารเสริม มาใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์อาหารเสริม จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้คิดค้นสูตรอาหารเสริม และผู้ผลิตอาหารเสริมนั้นต้องใส่ใจเป็นอย่างยิ่ง ทั้งเพื่อผู้บริโภค และคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่จะนำมาซึ่งความไว้วางใจและกลับมาซื้อซ้ำ ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมนั้นอีก
สนใจข้อมูลเพิ่มเติม หรือต้องการสอบถามเรื่องการผลิตอาหารเสริม / วัตถุดิบอาหารเสริม / วิจัยอาหารเสริม คลิกติดต่อทีมขาย