การออกกำลังกายเป็นเรื่องที่สำคัญและเป็นเรื่องพื้นฐานของการเริ่มต้นสุขภาพดีทั้งร่างกายและจิตใจ แต่ก่อนออกกำลังกายการเตรียมพร้อมร่างกายก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน การเตรียมพร้อมร่างกายก่อนออกกำลังกายมีความสำคัญเพื่อลดความเครียดทางกาย ลดความเจ็บปวด และเพิ่มประสิทธิภาพในการออกกำลังกาย
การอบอุ่นร่างกาย หรือ Warm Up
การอบอุ่นร่างกายหรือ Warm-up เป็นขั้นตอนที่สำคัญก่อนที่จะทำกิจกรรมทางกาย เป็นการเตรียมร่างกายให้พร้อมที่จะดำเนินกิจกรรมที่มีการใช้พลังงานสูง ๆ หรือการทำกิจกรรมกีฬา ด้วยวิธีการนี้จะช่วยลดความเสี่ยงในการได้รับบาดเจ็บและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำกิจกรรมทางกายดังนี้
เพิ่มอุณหภูมิร่างกาย : การทำอบอุ่นทำให้อุณหภูมิร่างกายเพิ่มขึ้น ซึ่งช่วยให้กล้ามเนื้อทำงานได้ดีขึ้น
เพิ่มการไหลเวียนของเลือด : การทำงานในขั้นตอนอบอุ่นช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ซึ่งจะเพิ่มประสิทธิภาพในการให้สารอาหารและออกฤทธิ์ทางกาย
เตรียมจิตใจ : การอบอุ่นยังช่วยเตรียมจิตใจให้พร้อมที่จะเริ่มกิจกรรม ซึ่งสามารถช่วยให้ความรู้สึกมั่นใจและตั้งใจมากขึ้น
ลดความตึงเครียดของกล้ามเนื้อ : การอบอุ่นช่วยลดความตึงเครียดและยืดกล้ามเนื้อ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในการได้รับบาดเจ็บ
เพิ่มระดับความยืดหยุ่น : การอบอุ่นช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อและข้อต่อ ซึ่งทำให้กล้ามเนื้อเตรียมพร้อมที่จะดำเนินกิจกรรมทางกาย
ป้องกันการบาดเจ็บ : การทำอบอุ่นลดความเสี่ยงในการได้รับบาดเจ็บ เพราะร่างกายได้รับเวลาในการเตรียมพร้อมก่อนที่จะทำกิจกรรมทางกายที่มีความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บสูง
การอบอุ่นสามารถทำได้หลายวิธี เช่น การทำการยืดกล้ามเนื้อ การเคลื่อนไหวเบา ๆ, หรือการทำกิจกรรมทางกายที่มีความหนักเบา ๆ โดยทั่วไป , การอบอุ่นควรทำในระยะเวลาประมาณ 5-10 นาทีก่อนที่จะทำกิจกรรมหลัก
แนะนำ 3 ท่าสำหรับการ Warm Up
1.ท่าสควอทหรือ Squat
เป็นท่าออกกำลังกายที่มีประโยชน์มากมายสำหรับกล้ามเนื้อหลายพื้นที่ของร่างกาย เป็นท่าที่ใช้กล้ามเนื้อหลายกลุ่ม เช่น กล้ามเนื้อขา, กล้ามเนื้อกลาง, กล้ามเนื้อหลัง, และกล้ามเนื้อแกนร่างกาย. นอกจากนี้ยังช่วยเสริมความแข็งแรงของข้อเข่า, ลำตัว, และลดภาวะบาดเจ็บในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย. นี่คือขั้นตอนทำท่าสควอท (Squat) พื้นฐาน
เริ่มต้นจากท่าท่ายืน : วางเท้าห่างกันเท่าความกว้างของไหล่หรือกว้างขึ้นนิดหน่อย ให้หันหน้าไปข้างหน้าหรือมองหน้าไปด้านหน้า
จับมือหน้าหรือวางมือที่สะโพก : การจับมือหน้าหรือวางมือที่สะโพกเป็นการช่วยในการรักษาสมดุลของร่างกาย
ค่อย ๆ นำสะโพกลง : งอข้อเข่าและนำสะโพกลงไปเรื่อย ๆ ดังนั้นจนเข่าอยู่ในตำแหน่งที่ต่ำที่สุดที่คุณสามารถทำได้
รักษาระหว่างเท้าและเข่า : รักษาน้ำหนักที่แจ่มใส่ที่กลางของเท้าและรักษาความสมดุลระหว่างเท้าและเข่า
ยกตัวขึ้น : ใช้กล้ามเนื้อขาและกล้ามเนื้อกลางเพื่อขึ้นสูงขึ้นไปยืน
คำแนะนำ
2.ท่าเลกลันจ์ (Leg Lunges)
เป็นท่าออกกำลังกายที่เน้นการฝึกกล้ามเนื้อขาและกล้ามเนื้อก้น นอกจากนี้ยังช่วยในการพัฒนาความสมดุลของร่างกาย และทำให้กล้ามเนื้อแกนร่างกายทำงานเพิ่มขึ้นด้วย. นี่คือขั้นตอนทำท่าเลกลันจ์
เริ่มต้นจากท่ายืน : วางเท้าห่างกันเท่าความกว้างของไหล่ ให้หันหน้าไปข้างหน้าหรือมองหน้าไปด้านหน้า
ทำการยืดขา : ย้ายน้ำหนักของร่างกายไปทางข้างหนึ่ง, แล้วเอาขาอีกข้างไปท้ายไปข้างหน้า ให้เข่าหลังจากนั้นนำสะโพกลงไปเพื่อให้เข่าของขาท้ายเข้ามาหลายๆ นิ้ว
ยืนใหม่ : ใช้กล้ามเนื้อขาท้ายเพื่อผลักตัวขึ้นมายืนในท่าเริ่มต้น
ทำท่าเลกลันจ์ที่ข้างตรงข้าม : ทำท่าเลกลันจ์ฝั่งตรงข้าม โดยทำลักษณะเดียวกัน
คำแนะนำ
3.ท่ากระโดดเชือก
เป็นท่าออกกำลังกายที่เน้นการใช้กล้ามเนื้อหลายกลุ่ม, เพิ่มความแข็งแรงทั้งส่วนบนและล่างของร่างกาย, และช่วยเสริมฟอร์มการกระโดด นอกจากนี้ยังมีประโยชน์ต่อการเสริมระบบทรวงอกและการเพิ่มความก้าวหน้าในการมีระดับฟิตเนส. นี่คือขั้นตอน
เตรียมเชือก : ยืนตรงและถือเชือกทั้งสองด้านให้แน่น, โดยให้เชือกตกลงไปทางด้านหน้าของร่างกาย
ทำท่าเตรียมตัว : ให้เข้าท่าอยู่ตรง ๆ และวางน้ำหนักของร่างกายไปที่ลำตัวของคุณ ตัวคุณควรอยู่บนลำตัวของเท้า, ตั้งแต่ส้นเท้าไปถึงส้นหุ้ม
ขยับเชือกขึ้น : ด้วยการใช้ขาและตัวแขน, ยกเชือกขึ้นตามลำกล้องของร่างกาย
ในขณะเดียวกัน, กำหนดจังหวะการกระโดดด้วยการเดินขาในทิศทางขึ้น
กระโดดขึ้น : ในทำนองเดียวกัน, ใช้พลังขาและตัวแขนเพื่อกระโดดขึ้น ให้ยกขาขึ้นสูงขึ้นในขณะที่เชือกยังคงหมุน
จับเชือก : เมื่อยกขาขึ้นสูงสุด , ให้ใช้มือจับเชือกที่กำลังหมุนไปข้างหน้า
ลงดิน : ปล่อยเชือกให้ค่อย ๆ ลงล่าง จากนั้นเข้าสู่การกระโดดในรอบถัดไป
คำแนะนำ
อันตรายการไม่ได้วอร์มร่างกายก่อนออกกำลังกาย
ก่อนการออกกำลังกายมีความเสี่ยงต่ออันตรายที่สูงขึ้น เนื่องจากร่างกายที่ยังไม่ได้เตรียมพร้อมอาจทำให้เกิดบาดเจ็บและปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ได้. นี่คือบางปัญหาที่อาจเกิดขึ้นเมื่อไม่ได้ทำการวอร์มอัพ:
บาดเจ็บกล้ามเนื้อ : การเริ่มการออกกำลังกายโดยไม่ได้ทำการวอร์มอัพอาจทำให้เกิดบาดเจ็บกล้ามเนื้อ เนื่องจากกล้ามเนื้อยังไม่ได้รับพลังงานและการเตรียมความพร้อม.
บาดเจ็บข้อ : การไม่ทำการวอร์มอัพอาจทำให้ข้อต่าง ๆ ของร่างกายไม่ได้รับการเตรียมความพร้อมในการเคลื่อนไหว ทำให้มีความเสี่ยงที่สูงขึ้นในการบาดเจ็บข้อ.
บาดเจ็บเส้นเอ็น : เส้นเอ็นและเนื้อเยื่ออื่น ๆ ในร่างกายต้องการเวลาในการปรับตัวและเตรียมพร้อมก่อนที่จะเข้าสู่การกิจกรรมทางกาย การไม่ทำการวอร์มอัพอาจทำให้เพิ่มความเสี่ยงในการบาดเจ็บ.
ลดประสิทธิภาพ : การไม่ทำการวอร์มอัพอาจทำให้ประสิทธิภาพในการออกกำลังกายลดลง เนื่องจากร่างกายยังไม่ได้รับการเตรียมความพร้อมในการทำงาน.
การทำการวอร์มอัพทำให้ร่างกายเตรียมความพร้อมสำหรับกิจกรรมทางกาย, เพิ่มการไหลเวียนของเลือด, ปรับความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ และลดความเสี่ยงในการเกิดบาดเจ็บ. ดังนั้น ควรให้เวลาทำการวอร์มอัพก่อนทุกครั้งที่ท่านต้องการออกกำลังกายจากการไม่ได้วอร์มร่างกาย
โภชนาการและอาหารที่ร่างกายควรได้รับก่อนออกกำลังกาย
การบริโภคอาหารที่เหมาะสมก่อนออกกำลังกายเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ร่างกายมีพลังงานที่เพียงพอและสมดุล. นอกจากนี้ยังช่วยให้ประสิทธิภาพของการออกกำลังกายเพิ่มขึ้น และลดความเสี่ยงในการรู้สึกอ่อนเพลียหรือหมดพลังกลางทาง กลุ่มอาหารที่เหมาะสมมีดังนี้
เวลาการรับประทาน
ควรรับประทานอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตและโปรตีนประมาณ 2-3 ชั่วโมงก่อนการออกกำลังกาย เพื่อให้ร่างกายมีเวลาในการดูดซึมและนำไปใช้เป็นพลังงาน นี่เป็นแนวทางทั่วไปและอาจต้องปรับเปลี่ยนตามความต้องการของแต่ละบุคคล คำแนะนำที่ดีคือการปรึกษากับนักโภชนาการหรือผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารเพื่อให้ได้แผนโภชนาการที่เหมาะสมกับคุณส่วนบุคคล.
Cool down หรือ การผ่อนคลายหลังออกกำลังกาย
Cool down หรือการทำการผ่อนคลายหลังจากการออกกำลังกายเป็นส่วนสำคัญของรูปแบบการฝึกซ้อมที่ควรทำ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ การทำ Cool Down หรือการผ่อนคลายหลังจากการออกกำลังกายมีประโยชน์มากมายต่อร่างกายและสุขภาพ
ลดความเสี่ยงต่อบาดเจ็บ : Cool Down ช่วยลดความเสี่ยงในการได้รับบาดเจ็บจากการออกกำลังกาย, เนื่องจากการทำการผ่อนคลายช่วยในการลดความตึงเครียดและเตรียมกล้ามเนื้อให้กลับสู่สภาพปกติ.
ส่งเสริมการระงับกระบวนการอักเสบ : การ Cool Down ช่วยลดอักเสบในกล้ามเนื้อที่ทำงานหนักในระหว่างการออกกำลังกาย ทำให้กระบวนการซ่อมแซมเกิดขึ้นได้ดีขึ้น.
ปรับสภาพจิตใจ : Cool Down ช่วยให้ร่างกายมีโอกาสที่จะคืนความสงบและสมดุลทางจิตใจ หลังจากที่ได้รับการกระตุ้นจากการออกกำลังกาย.
ลดความเมื่อยล้า : การทำ Cool Down ช่วยลดความเมื่อยล้าหลังจากการออกกำลังกาย, ทำให้ร่างกายมีโอกาสกลับสู่สภาพปกติได้รวดเร็วขึ้น.
ส่งเสริมการยืดหยุ่น : Cool Down ช่วยในการยืดหยุ่นกล้ามเนื้อ, ซึ่งส่งผลให้กล้ามเนื้อมีการดูดซึมและคลายตัวได้ดี.
ลดความเครียด : การผ่อนคลายหลังจากการออกกำลังกายช่วยลดความเครียดในร่างกาย, ทำให้ร่างกายและจิตใจได้รับประโยชน์.
ปรับระดับฮอร์โมน : Cool Down ช่วยปรับระดับฮอร์โมนในร่างกาย, ทำให้ร่างกายกลับสู่สภาพปกติ.
แนะนำท่าสำหรับการ Cool down หลังการออกกำลังกาย
1.ท่า Overhead Triceps Stretches
เป็นท่ายืดกล้ามเนื้อในบริเวณตรงหลังแขน (triceps). การทำท่านี้ช่วยในการเพิ่มความยืดหยุ่นในส่วนนี้ของร่างกาย และมีประโยชน์ต่อการลดความตึงเครียดหลังจากการออกกำลังกายหรือกิจกรรมทางกายอื่น ๆ นอกจากนี้ยังช่วยลดความเครียดในส่วนไหนของไหล่และหลัง
วิธีการทำท่า Overhead Triceps Stretches
เริ่มต้นจากท่านั่งหรือยืน : นั่งหรือยืนตรงในท่าที่สบาย, ให้หลังตรง, ไหล่ลง, และทำให้ร่างกายไม่โค้งเกินไป.
ยกแขนขึ้น : ยกแขนขึ้นตรงบนหัว, ให้ฝ่ามือทั้งสองมือหันไปทางหลัง, ฝ่ามือตรงกับหลัง.
งอข้อศอก : ใช้มือทั้งสองจับเข้ากับข้อศอกที่อยู่ด้านหลังของหัว, ให้มือหนึ่งอยู่ที่บริเวณบนไหล่ของอีกมือ.
การยืด : กดบนข้อศอกที่จับไว้ทางหลัง, ในขณะที่ใช้มืออีกข้างที่ว่างจับข้อมือของมือที่อยู่ทางหลังและยืดเบาๆ.
ความรู้สึกขณะยืด : รู้สึกการยืดความตึงเครียดบริเวณ triceps และลำตัว.
คงท่านี้ไว้เป็นเวลา 15-30 วินาที : ควรคงท่านี้ไว้เป็นเวลาที่สะดวก และหลังจากนั้นนำมือกลับมาทางด้านหน้า.
ทำซ้ำด้านอีกข้าง : ทำท่านี้ที่ด้านอีกข้างเพื่อยืด triceps ทั้งสองข้าง.
ท่า Overhead Triceps Stretches เป็นท่ายืดที่ดีในการลดความตึงเครียดหลังจากการออกกำลังกายหรือกิจกรรมทางกายอื่น ๆ ควรทำท่านี้เป็นส่วนหนึ่งของการผ่อนคลายหลังการออกกำลังกายหรือก่อนการฝึกซ้อมเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในกล้ามเนื้อ triceps และส่วนท่อนบนของลำตัว
2.ท่า Child’s Pose Stretch
Child's Pose (ท่ายืดร่างเด็ก) เป็นท่ายืดที่มีประโยชน์ในการผ่อนคลายกล้ามเนื้อในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย, โดยเฉพาะในส่วนหลัง, ไหล่, และ เข่า
เริ่มต้นจากท่าตั้งเข่า : นั่งหรือยืนตรงบนพื้น, ให้เข่าและข้อเท้าติดกัน, แขนยันบนพื้นข้างตรงไปข้างหน้า.
นั่งลงที่ส่วนหลัง : ให้ลงที่ส่วนหลังไปทางหลัง, แขนยันลงบนพื้นข้างหน้า.
การงอหลัง : งอลงที่ส่วนลำตัวลงลงไปทางดิน ให้ส่วนลำตัวแตะพื้น และหลังคุณยืนขึ้นสูงจากพื้น.
การยืดแขน : ยืดแขนไปข้างหน้า, และวางหน้าที่พื้นหรือบนพื้นหลังของขา.
การปรับท่า : หากสามารถ, สามารถปรับท่าได้โดยการเลื่อนมือไปด้านหน้าหรือยืดแขนไปไกลขึ้น.
การหายใจ : ให้หายใจลึกๆ และรู้สึกการยืดทั่วทั้งส่วนหลัง, ไหล่, และ เข่า.
คงท่านี้ : คงท่านี้ไว้เป็นเวลา 30 วินาทีถึง 1 นาที, หรือตามความสะดวก.
Child's Pose เป็นท่ายืดที่ดีในการผ่อนคลายกล้ามเนื้อหลังและข้อท่าต่าง ๆ ของร่างกาย ช่วยลดความตึงเครียด, พัฒนาความยืดหยุ่น, และช่วยในกระบวนการหายใจ. ท่านี้สามารถทำในบริเวณที่มีพื้นที่ว่างเพียงพอ เช่น บนพื้นพรมหรือโต๊ะโยคะ
การทำ Cool Down เป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยในการปรับสภาพร่างกายกลับสู่สภาพปกติ, ลดการบาดเจ็บ, และส่งเสริมการซ่อมแซม. ควรให้เวลาสัก 5-10 นาทีหลังจากการออกกำลังกายเพื่อทำ Cool Down.
ผลเสียจากการไม่ได้ทำ Cool down หรือการผ่อนคลายหลังออกกำลังกาย
การไม่ทำ Cool Down หรือไม่ทำการผ่อนคลายหลังออกกำลังกายอาจส่งผลต่อร่างกายและสุขภาพ
เพิ่มความเสี่ยงต่อบาดเจ็บ : การไม่ทำ Cool Down ทำให้กล้ามเนื้อยังอยู่ในสภาพความตึงเครียดจากการออกกำลังกาย ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อบาดเจ็บ, เฉพาะในท่าที่ใช้กล้ามเนื้อมาก.
ลดประสิทธิภาพการซ่อมแซม : Cool Down เป็นขั้นตอนที่ช่วยกระตุ้นกระบวนการซ่อมแซมของกล้ามเนื้อ การไม่ทำ Cool Down อาจทำให้กระบวนการนี้ช้าลง.
เพิ่มความเมื่อยล้า : การไม่ทำ Cool Down อาจทำให้รู้สึกเมื่อยล้าหลังจากการออกกำลังกาย, ทำให้ความเหนื่อยและอ่อนเพลียมีอาการมากขึ้น.
เสี่ยงต่อการบาดเจ็บข้อ : การที่กล้ามเนื้อยังคงอยู่ในสภาพตึงเครียดอาจทำให้มีความเสี่ยงสูงขึ้นในการบาดเจ็บข้อ, เนื่องจากข้อจะไม่ได้รับการเตรียมความพร้อมในการเคลื่อนไหว.
เพิ่มความเครียด : การไม่ทำ Cool Down ทำให้ร่างกายยังคงอยู่ในสภาพความตึงเครียด ทำให้เกิดความเครียดทางร่างกายและจิตใจ.
ลดความยืดหยุ่น : การที่ไม่ทำ Cool Down ทำให้กล้ามเนื้อไม่ได้รับการยืดหยุ่นในขณะที่อยู่ในสภาพร้อน ทำให้ยืดหยุ่นลดลง.
การ Cool Down หลังจากการออกกำลังกายมีความสำคัญเพราะช่วยลดความเสี่ยงต่อบาดเจ็บ, ส่งเสริมกระบวนการซ่อมแซม, ลดความเมื่อยล้า, และช่วยให้ร่างกายกลับสู่สภาพปกติได้รวดเร็ว.
โภชนาการและอาหารที่ร่างกายควรได้รับหลังออกกำลังกาย
หลังจากการออกกำลังกายการปรับเปลี่ยนโภชนาการเป็นสิ่งสำคัญเพื่อส่งเสริมกระบวนการซ่อมแซมพัฒนากล้ามเนื้อและรักษาร่างกายในสภาพที่ดี
การทำ Warm-up และ Cooldown เป็นส่วนสำคัญของการออกกำลังกายที่ช่วยเตรียมพร้อมร่างกายก่อนและช่วยในกระบวนการฟื้นตัวหลังจากการออกกำลังกาย ซึ่งการทำ Warm-up และ Cooldown อย่างถูกต้องจะช่วยป้องกันการบาดเจ็บ, ลดความเสี่ยงของปัญหาสุขภาพที่เกิดขึ้นจากการออกกำลังกาย, และช่วยให้ร่างกายของคุณมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมไปถึงการบริโภคอาหารและโภชนาการก่อนและหลังการออกกำลังกายตามความเหมาะสมที่ร่างกายของแต่ละคนควรจะได้รับ
โปรตีนเป็นสารอาหารที่สำคัญตอนออกกำลังกาย เพราะมีหน้าที่สำคัญในการซ่อมแซมกล้ามเนื้อที่ถูกทำลายในระหว่างการออกกำลังกาย และเพิ่มประสิทธิภาพในการกำหนดรูปร่างของร่างกาย
3C ขอนำเสนอ Whey Pro เวย์โปรตีนเป็นผลิตภัณฑ์ที่นำเข้ามาจากประเทศสหรัฐอเมริกา และยุโรป
ที่มีส่วนผสมของ HIGH AMINO ACID และ BCAA SCORE ที่ให้คุณค่าทางโภชนาการสูง ย่อยง่าย และดูซึมเข้าสู่ร่างกายได้อย่างรวดเร็ว
เป็นเวย์โปรตีนที่สกัดจากนมวัวแท้ 100% นำเข้าจากประเทศสหรัฐอเมริการและยุโรป อุดมไปด้วยกรดอะมิโนที่ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ “BCAA (BRANCHED CHAIN AMINO ACID)” 20.61% มีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายครบทุกชนิด
KEY BENEFITS
บริษัท 3C Group เรายังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นผู้นำทางด้านอาหารเสริมเพื่อสุขภาพ ซึ่งหากคุณมีความสนใจในเรื่องของการวิจัยและพัฒนาสูตรอาหารเสริม เรามีความยินดีที่จะให้คำแนะนำเกี่ยวกับวัตถุดิบและขั้นตอนการผลิตในทุกๆ ขั้นตอนของการจัดทำอาหารเสริม
สำหรับผู้ที่สนใจท่านสามารถติดต่อเราได้เพื่อรับคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสร้างแบรนด์ การคิดค้นสูตรอาหารเสริม ตลอดจนไปถึงการช่วงวางแผนการจำหน่าย เพราะเราเป็นบริษัทรับผลิตและนำเข้าวัตถุดิบที่มีความเชี่ยวชาญ
ติดต่อเราได้ที่ Line : @3cnutra หรือทีมขายที่ดูแลท่าน
ส่งความคิดเห็น
ที่อยู่อีเมลของคุณจะไม่ถูกเผยแพร่ ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *